จับยาบ้าครั้งใหญ่ ! 8.5 ล้านเม็ด ขนขึ้นสิบล้อ ซ่อนถุงปุ๋ยขี้ไก่กลบกลิ่น

จับยาบ้าครั้งใหญ่ ! 8.5 ล้านเม็ด ขนขึ้นสิบล้อ ซ่อนถุงปุ๋ยขี้ไก่กลบกลิ่น

ข่าวยาเสพติดล่าสุด จับยาบ้าครั้งใหญ่ 8.5 ล้านเม็ด ขนขึ้นสิบล้อ ซ่อนในถุงปุ๋ยขี้ไก่ กลบกลิ่น สุดท้ายำตรวจตามจับกุมตัวคนร้ายมาได้ 3 คน แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด 3 ราย ยึดยาบ้าของกลางได้ทั้งหมด 8.5 ล้านเม็ด วานนี้ (5 มิ.ย.65) โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง 

ใน ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี พร้อมรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-2729 สกลนคร รถยนต์นิสสัน ซีลฟี่ ทะเบียน กค 7687 นครพนม และโทรศัพท์ 4 เครื่อง หลังติดตามไล่ล่าจับกุมอย่างระทึกขวัญ โดยยาทั้งหมดนี้ขนใส่รถบรรทุกขนาดใหญ่ ซ่อนในถุงปุ๋ยขี้ไก่ เพื่อกลบกลิ่นยาบ้า เบื้องต้น ผู้ต้องหา 3 ราย คือ

1. นายประยงค์ ศรีหาอวน อายุ 45 ปี

2. นายทวีโชค ทิพประพันธ์ อายุ 49 ปี

3. นายฤทธิรงค์ อาจเสน อายุ 38 ปี

ทั้งนี้ ตำรวจได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอด เมื่อมาถึงปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ คาดว่าน่าจะมีการส่งยา จึงแสดงตัวจับกุม พบยาบ้าของกลางที่ท้ายรถบรรทุก จำนวน 8.5 ล้านเม็ด ส่วนรถกระบะหลายคันที่เตรียมรับยา ได้ขับหนี แม้ตำรวจจะยิงสกัดก็ไม่สามารถจับกุมได้ จึงคุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยิงกันปทุมธานี ล่าสุด ความคืบหน้า คนร้ายอำพรางใช้รถพยาบาลขนยาเสพติด ยิงแหกด่านตำรวจ ทิ้งรถพบของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด ติดตามความคืบหน้ากรณี เหตุคนร้ายใช้ “รถพยาบาล” ก่อเหตุยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่ จ.สระบุรี – อยุธยา โดยคนร้ายอยู่ระหว่างหลบหนีเข้าเขตปทุมธานี ซึ่งจากการติดตามตัวล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง ระบุ

วันนี้ (5 มิ.ย.65) ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง พร้อม ตำรวจภูธรจังหวัด สระบุรี ได้เร่งติดตามรถพยาบาลคันต้องสงสัย หลังได้รับเเจ้งว่ารถคันดังกล่าวขนยาเสพติด โดยขณะผ่านจุดตรวจของ ภูธรจังหวัดสระบุรี คนร้ายซึ่งได้อำพรางด้วยรถพยาบาล ได้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อเปิดทางหลบหนี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจนพบว่า รถคันต้องสงสัยดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่บริเวณ ซ.สุวินทวงศ์ 44 กทม. และพบของกลางยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ถูกทิ้งไว้ที่บริเวณวัดแสนสุข จึงได้ทำการตรวจยึดไว้

ในส่วนของคนร้ายที่หลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รัฐบาลเอาจริง! กวาดล้าง ‘อุ้มบุญ’ ยกเป็นคดีพิเศษ

รัฐบาลเดินหน้ากวาดล้าง อุ้มบุญ อย่างจริงจัง พร้อมยกให้เป็นคดีพิเศษ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพป้องปราม-ตัดตอนเส้นทางการเงิน นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 หรือที่เรี่ยกกันทั่วไปว่า กฎหมายอุ้มบุญ รัฐบาลโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีการดำเนินคดีกับหญิงไทยและขบวนการรับจ้างตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ)อย่างต่อเนื่อง

และด้วยคดีดังกล่าวมักเป็นคดีที่มีความซับซ้อนทั้งในการสืบหาผู้ร่วมขบวนการ หรือเส้นทางการเงินที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ดังนั้น เพื่อขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าว จึงได้ลงนามความร่วมมือในการปฏิบัติงานในการสืบสวนคดี ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเข้าถึงข้อมูล ซึ่งจะทำให้การป้องปราม การตัดตอนเส้นทางการเงิน และการนำตัวผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติมาดำเนินการตามกฏหมาย เป็นไปอย่างเข้มข้นและถึงที่สุด โดยล่าสุดดีเอสไอได้รับแจ้งจาก สบส. กว่า 10 คดี ซึ่งรับเป็นคดีพิเศษแล้ว 2 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับภาพรวมการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของประเทศไทย สบส.รายงานว่า มีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 45 มีการให้บริการทำเด็กหลอดแก้วกว่า 20,000 รอบการรักษา การผสมเทียมกว่า 12,000 รอบ มีการพัฒนาระบบเพื่อส่งเสริมสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านการเจริญภัณฑ์ทางการแพทย์ผ่านการรับรองมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 104 แห่ง รายสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 4,500 ล้านบาท

นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า พฤติการของผู้กระทำผิดทำเป็นกระบวนการ ตั้งแต่ผู้จ้างวาน ผู้ดำเนินการ ผู้สนับสนุน และผู้นำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจขยายวงไปถึงการค้ามนุษย์ เพราะมีการผลิตเด็กเป็นจำนวนมาก มีการเอาตัวอ่อนมาเลี้ยง บางทีตัวอ่อนมาจากการส่งน้ำเชื้อจากต่างประเทศ และมาฝังเป็นตัวอ่อนในประเทศไทย และมีการดูแลจนกระทั่งตั้งครรภ์ออกมา จึงนำเด็กไปไว้ ณ ที่แห่งหนึ่ง เพื่อรอการส่งออก

ดังนั้น การยกระดับคดีอุ้มบุญให้เป็นคดีพิเศษ จะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องมาตรฐานทางการแพทย์ของประเทศด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนพบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การรับจ้างตั้งครรภ์แทน หรือการโฆษณาชวนเชื่อให้มีการอุ้มบุญ หรือซื้อขายอสุจิ ขอให้แจ้งข้อมูลที่สายด่วนสบส. 1426 เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป